
การจัดทำผลงานทางวิชาการเพื่อขอเลื่อนวิทยฐานะใกล้เข้ามาแล้ว เริ่มมีเสียงบ่นจากครูบางท่านว่ายังไม่มีนวัตกรรมเลย แล้วนวัตกรรมที่ว่านั้นคืออะไร...
นวัตกรรม คือ วิธีการหรือสิ่งประดิษฐ์ที่เป็นสิ่งใหม่ ที่สามารถปฏิบัติได้จริง(บางครั้งก็เก่าที่อื่น แล้วมาใหม่ที่เราเนื่องจากเราปรับให้เหมาะกับบริบทปัญหาของห้องเรียนเรา) เมื่อนำนวัตกรรมที่ครูจัดสร้างแล้วนำไปใช้กับนักเรียน สามารถแก้ปัญหาการจัดการเรียนการสอนและยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ นวัตกรรมจึงเป็นเครื่องมือที่มีคุณภาพ จะต้องมีความเที่ยง(VALIDITY)และความเที่ยง(RELIABILITY)ที่สูง....
เรามาเข้าใจความหมายของความตรงและความเที่ยงกันก่อนครับ เนื่องจากมีปัญหามาก เริ่มตั้งแต่การใช้คำแล้วครับ "ความตรง" มาจากภาษาอังกฤษว่า "VALIDITY" คำนี้หนังสือ บทความ งานวิจัยและวิทยานิพนธ์ ใช้คำนี้อยู่สองคำ คือ "ความตรง" เป็นคำจากท่านอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้กัน และ "ความเที่ยงตรง" เป็นคำจากอาจารย์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร นิยมใช้ ส่วนคำว่า "ความเที่ยง" มาจากภาษาอังกฤษว่า "RELIABILITY" คำนี้ทางมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒฯ ใช้คำว่า "ค่าความเชื่อมั่น" ส่วนทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ใช้คำว่า "ค่าความเที่ยง"และมีตำราวิจัยจากนิด้าบางเล่มใช้ คำว่า"ค่าความน่าเชื่อถือ" งงกับคำที่ใช้เกี่ยวกับคุณภาพเครื่องมือก่อนหาคุณภาพเครื่องมือเสียแล้ว มาถึงตรงนี้แล้วคุณครูทุกท่านคงเข้าใจที่มาของคำแล้วนะครับ.....
การรวบรวมข้อมูลให้ได้ผลถูกต้อง สมบูรณ์ครบถ้วน จำเป็นต้องมีเครื่องมือมีทั้งความตรงและความเที่ยงสูง สำหรับเครื่องมือที่มีความตรงนั้นสามารถวัดในสิ่งที่ต้องการวัดได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน เครื่องมือที่มีความตรงจึงแสดงคุณสมบัติลักษณะที่วัดได้ 3 ประการ คือ 1)ผลของการวัดสามารถแสดงค่าตามที่ต้องการได้ 2)สามารถวัดได้ตรงเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ทีกำหนดไว้ 3)ค่าที่ได้จากการวัดจะแสดงคุณลักษณะหรือคุณสมบัติของสิ่งที่วัด สำหรับความตรงมี 3 ประเภท คือ 1)ความตรงตามเนื้อหา(CONTENT VALIDITY)
2)ความตรงตามโครงสร้าง(CONSTRUCT VALIDITY) 3)ความตรงเชิงสัมพันธ์กับเกณฑ์(CRITERION RELATED VALIDITY)
ตอนนี้คุณครูทุกท่าน พอจะทราบแล้วนะครับว่า เครื่องมือที่มีความตรงเป็นอย่างไร และความตรงยังแบ่งออกเป็น 3 ประเภทอีกด้วย ผมจะขอกล่าวเฉพาะความตรงเชิงเนื้อหาอย่างเดียวนะครับ
ความตรงเชิงเนื้อหาของเครื่องมือ หมายถึง ข้อคำถามหรือข้อความแต่ละข้อและรวมทุกข้อที่เป็นเครื่องมือทั้งชุดนั้น ถามได้ตรงและครอบคลุมเนื้อหาหรือไม่ ข้อความที่ถามทั้งหมดเป็นตัวแทนของเนื้อหา
เครื่องมือรวบรวมข้อมูลว่ามีความตรงตามเนื้อหานั้น ใช้การวิเคราะห์เชิงเหตุผลที่ต้องอาศัยดุลยพินิจของผู้เชี่ยวชาญทางเนื้อหาเป็นเกณฑ์ นิยมทำกันสองระยะคือ ระยะแรกเป็นการตรวจสอบตอนสร้างเครื่องมือระยะหลังเป็นการตรวจสอบตอนการพัฒนาเครื่องมือ ซึ่งพิจาณาจากค่า I.O.C. หรือค่า I.C. หรือค่า I.V.C.แล้วแต่ตำราไหนจะใช้(เพราะเป็นค่าเดียวกัน)ค่าที่ได้และเป็นที่ยอมรับกันก็ไม่เหมือนกัน
เริ่มตั้งแต่ .50ขึ้นไปใช้ได้ หนังสือบางเล่มก็ .60ขึ้นไปใช้ได้ หนังสือบางเล่มก็ .80ขึ้นไป เห็นไหมครับ..... งงไหมครับก็หนังสือบางเล่มบอกว่า หนังสือเล่มไหนกันครับ
เครื่องมือที่รวบรวมที่มีความเที่ยงสูง(RELIABILITY)คือเครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลกี่ครั้งๆจะได้ค่าที่ใกล้เคียงกัน วิธีหาค่าความเที่ยงหรือความเชื่อมั่นก้ฒีหลายแบบ แต่ที่คุณครูคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
คือ การให้คะแนนแบบตอบผิดได้ 0 และตอบถูกได้ 1 ใช้วิธีหาค่าความเที่ยงโดยวิธีที่เรียกว่าค่า KR-20และKR-21 เครื่องมือที่เป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่า(RATING SCALE)ก็ใช้วิธีของครอนบาช แอลฟ่า ค่าที่ได้ก็ต้องอยู่ในกรอบที่ยอมรับได้
|