วันนี้เป็นวันแรกที่ผมจะสอนวิชา การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ ประจำภาคปลายปีการศึกษา ๒๕๕๐ เมื่อภาคการศึกษาที่แล้วผมลองใช้ ประเด็นปัญหานำทางในการสอน โดย
- ให้นักศึกษาแจกแจงปัญหากันเอง
- ผมช่วยสรุปประเด็นและเชื่อมโยงให้เห็น “สมุทัย”
- แล้วย้อนมาหาเป้าหมายของแผน “นิโรธ”
- จนถึง “มรรค” เป็นภาคทางเลือกปฏิบัติในการแก้ไขปัญหา
- แล้วจึงสรุปประเด็นการเรียนรู้ทั้งหมดด้วยทฤษฏีและหลักการทำงานกับชุมชน และหน่วยราชการทุกภาคส่วน ว่ามีขั้นตอน อุปสรรค และแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร
ปรากฏว่านักศึกษาส่วนหนึ่งที่ “ตั้งท่าจดอย่างเดียว” ตามไม่ค่อยทัน ตั้งแต่ในเชิงปัญหาของพื้นที่ และการจัดการที่นักศึกษาจำนวนหนึ่ง
- ไม่เข้าใจประเด็นและกลไกของปัญหา
- และไปติดอยู่กับปัญหาแบบฉาบฉวย ไม่ใช่แก่นแท้
- ที่ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงกับการแก้ปัญหา จนเข้าใจสมุทัย ได้
- การกำหนดเป้าหมายในการแก้ไข จึงยิ่งไม่ตรงประเด็น
- เมื่อผมดึงเข้าทฤษฎีและหลักการ ก็งง และจับอะไรไม่ได้
- ทำให้ตอบข้อสอบ
- แบบวัดความจำได้
- แต่วัดความเข้าใจไม่ค่อยได้
- และข้อสอบที่วัดการประยุกต์แทบไม่ได้เลย
- ทั้งเชิงปริมาณ (คนที่เข้าใจ และนำไปปรับใช้) และ
- คุณภาพ (ระดับความเข้าใจ และระดับความสามารถในการประยุกต์)
เมื่อก่อนหน้านี้ ผมเคยใช้วิธีการ
- นำเสนอทฤษฎีในเรื่องที่เกี่ยวกับหัวข้อการเรียน
- หลักการ เทคนิค วิธีการทำงาน แบบเดียวกับขั้นตอน ที่เขียนไว้ในตำราแทบทุกเล่ม
- แล้วจึงค่อยอธิบายเชิงประยุกต์เข้าสู่การใช้งาน ประเด็นปัญหา ทางออก และแนวทางแก้ไข
ปรากฏว่า นักศึกษาที่เรียนส่วนใหญ่
- ท่องจำได้ดีอย่างเป็นขั้นตอน
- แต่ ไม่สามารถนำความรู้ไปใช้งานจริงได้
- และ เมื่อวัดผลแล้ว
- สามารถตอบข้อสอบแบบท่องได้
- แต่ตอบข้อสอบแบบวัดความเข้าใจไม่ค่อยได้
- และไม่สามารถตอบข้อสอบที่วัดการประยุกต์ใช้ได้
ที่ผมเลิกใช้วิธีการนี้ มาเกือบ ๒๐ ปีแล้ว เพราะผมไม่เห็นด้วยกับการเรียนแบบท่องจำ แล้วนำความรู้ไปใช้ไม่ได้
ดังนั้น ในภาคการศึกษานี้ ผมจึงจะลองใช้กรณีศึกษา สดๆใหม่ๆ ที่ผมสรุปประเด็นการพัฒนาแบบ “บูรณาการ” ที่เป็นจริง เป็น successful case ที่เป็นสามารถใช้เป็นสื่อนำการเรียนรู้แนวทาง การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ ไว้ใน Utopia Utopai (สวรรค์เมืองปาย) เป็นกรณีตั้งต้น
ที่แสดงถึง ความเหมาะสมของ
· ระบบนิเวศเดิม
· การจัดการที่ดินและทรัพยากรที่ดิน
· การจัดการน้ำ และการจัดการแหล่งน้ำ
· การทำฝายหินชะลอการไหลของน้ำ
· ระบบการทำการเกษตร ทั้งดังเดิม และสมัยใหม่
· ระบบสังคม ประชากร ชนเผ่า
· ประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรม
· และการพัฒนาการท่องเที่ยงของเมืองปาย
ที่เป็น Best practice ของการจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ
โดยเฉพาะ
ประเด็นแผนสนับสนุนการพัฒนาเชิงการท่องเที่ยวนั้น เมืองปายได้จัดลงตัวได้อย่างพอเหมาะ
· มีระบบโครงสร้างพื้นฐาน ถนน ไฟฟ้า น้ำ สังคม เคื่องอำนวยความสะดวก นานาประการ
· ระบบบริการนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ
· ระบบธุรกิจบริการ ที่พัก อาหาร ความปลอดภัย ของที่ระลึก
· ระบบทรัพยากรธรรมชาติ ที่ดูแล และตกแต่งไว้เป็นอย่างดี
· ระบบการทำการเกษตรที่ทำให้เกิดทิวทัศน์สวยงามน่าชม
· ระบบชุมชนท้องถิ่นที่สวยงามแปลกตา
· ระบบศิลปวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์ หลากหลายที่สอดคล้องกลมกลืน เรียบง่าย แต่ลึกซึ้ง สวยงาม
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็ต้องคิดต่อ แบบเป็นจริงว่า สวรรค์เมืองปาย (Utopia Utopai) นั้น จะเป็นสาวสวย “สะพรั่ง” ไปได้อีกนานแค่ไหน
ที่ผมจะดึงเข้าประเด็นปัญหา อุปสรรค ข้อจำกัด ของกิจกรรมที่แม้จะเป็น Best practice อยู่ในปัจจุบัน
เช่น
จากการประเมินเชิงทรัพยากรน้ำ
· ตอนนี้ก็เริ่มเกิดการแก่งแย่งขาดแคลน และปนเปื้อนของแหล่งน้ำ
· ที่อาจเป็นชนวนจำกัดความร่วมมือของผู้เสียเปรียบในสังคม
· แต่ก็ยังมีข้อเสนอทางออกในการจัดระบบประปาชุมชน แทนระบบประปาภูเขา
· โดยภาพรวมก็จะทำให้ลดโอกาสของการเกิดปัญหาได้
ในเชิงสังคม
· แรงดึงดูดของรายได้นอกภาคเกษตร อาจทำให้กิจกรรมในภาคเกษตรลดลง
· ที่จะทำให้ภูมิทัศน์เชิงเกษตรลดลงหรือหายไป
· ที่อาจจำเป็นต้องวางแผนด้านนี้ให้ชัดเจน ทั้งในระดับชุมชน เมือง และทั้งพื้นที่
และประเด็นที่น่าจะสำคัญ ที่มีผลกระทบค่อนข้างรุนแรง
- แล้วจึงจะดึงประเด็นเข้าสู่อุปสรรคและแนวโน้มของปัญหา
- และแนวทางในการจัดการทั้งในปัจจุบันและอนาคต
ที่ผมเชื่อว่าจะทำให้นักศึกษา
- ติดตามเรื่อง
- เข้าใจบริบทของ “การจัดการทรัพยากรที่ดินแบบบูรณาการ” และ
- น่าจะเริ่มมองเห็นประเด็นทางวิชาการได้ดีกว่าเดิม
และ ในที่สุดผมจะปิดท้ายด้วยวิธีการทำงานแบบมีส่วนร่วม กับทุกภาคส่วนแบบบูรณาการ
เช่น
“เรื่องนี้ผมได้มีโอกาสหารือกับท่าน ผอ. พิทักษ์ อินทพันธ์ ว่าที่ ผอ. สำนักงานพัฒนาที่ดิน ที่มีภาระหน้าที่ด้านการพัฒนาที่ดิน และ ท่าน ผอ. พิสุทธิ์ ศาลากิจ แห่งกรมพัฒนาที่ดิน ที่เคยทำงานทั้งที่ปาย และปางมะผ้า”
ทั้งสองท่านได้เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ และคาดว่าจะมีโครงการมาสนับสนุนการ “พัฒนาที่ดิน”
ทั้งในปัจจุบันและอนาคต ให้ยั่งยืนสืบไป
ทั้ง
· ดินและที่ดิน
· น้ำ และแหล่งน้ำ
· การดูแล ต้นไม้ พืชพรรณ และป่าไม้
· ส่วนงานด้าน สังคม วัฒนธรรม และการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านอื่นๆ นั้นต้องประสานงานกับหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านที่เกี่ยวข้องต่อไป
ที่ผมจะค่อยๆปรับกระบวนการสนับสนุนการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับความก้าวหน้าของนักศึกษาส่วนใหญ่
จะประเมินผล และรายงานมาที่ gotoknow เป็นระยะๆ และสรุปผลการจัดกระบวนการเรียนรู้ตอนปลายภาคการศึกษา ครับ
วันนี้ อยากฟังความเห็นของ
- นักศึกษาจากชั้นเรียน ที่เข้ามาตามอ่าน และ
- ท่านปรมาจารย์ ด้านการสนับสนุนการเรียนรู้ และการจัดการความรู้ในชั้นเรียนระดับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าครับ
ท่านเห็นว่าควรจะปรับปรุงอะไรบ้างครับ